การเรียนรู้ในสิ่งที่เราสนใจอย่างถ่องแท้ มันคือภูมิคุ้มกันที่ทำให้เราก้าวเดินไปได้ในเส้นทางนั้นอย่างมั่นคง อย่างไรก็ตามการเข้าสู่วงการของการ เทรด Forex ต้องมีการศึกษาอย่างถูกต้อง ถูกวิธี ตั้งแต่ก่อนที่จะเริ่มเทรด พร้อมทั้งมองหาวิธีการหากำไรจากตลาด สำหรับในบทความนี้พวกเราได้รวบรวมข้อมูลสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นความรู้เกี่ยวกับการเทรด รวมทั้งวิธีการสร้างกำไรจากตลาดนี้ ซึ่งจะมีประเด็นสำคัญอย่างไรบ้าง ? ติดตามได้ในบทความนี้ครับ
เข้าใจ และเรียนรู้พื้นฐานของตลาด Forex
หากอธิบายง่าย ๆให้เข้าถึงการเทรด Forex นั่นก็คือ Foreign Exchange เป็นการแลกเปลี่ยนสกุลเงินในรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยการทำงานของตลาด, ผลิตภัณฑ์ที่ซื้อ-ขายได้ รวมทั้งการสร้างกำไรที่มีความผันผวนสูงทำให้สิ่งที่นักเทรดก่อนเข้าสู่ตลาด Forex จะต้องทำความเข้าใจดังต่อไปนี้ครับ
การทำงานของตลาด
- ตลาดจะเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
- จันทร์-ศุกร์
- แบ่งเป็น 4 ช่วงเวลาหลัก
- ซิดนีย์
- โตเกียว
- ลอนดอน
- นิวยอร์ก
แต่ละช่วงเวลาจะทำให้ตลาด Forex นั้นคึกคักตลอดทั้งวัน รวมไปถึงช่วงกลางคืนด้วย
รูปที่ 1: พื้นฐานของตลาด Forex และ Time Zone เวลาของตลาดแต่ละโซน
Forex ซื้อขายอะไรได้บ้าง
ตลาด Forex จะสามารถซื้อขายผลิตภัณฑ์ได้หลายอย่าง โดยมีรายละเอียดที่สำคัญดังนี้
คู่สกุลเงินหลัก
- EUR/USD (ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ)
- GBP/USD (ปอนด์อังกฤษ/ดอลลาร์สหรัฐ)
- USD/JPY (ดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่น)
- USD/CHF (ดอลลาร์สหรัฐ/ฟรังสวิส)
- USD/CAD (ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์แคนาดา)
- AUD/USD (ดอลลาร์ออสเตรเลีย/ดอลลาร์สหรัฐ)
- NZD/USD (ดอลลาร์นิวซีแลนด์/ดอลลาร์สหรัฐ)
คู่เงินหลักมีความสำคัญคือ
- สภาพคล่องสูง มีการซื้อขายในปริมาณมาก ทำได้ง่าย และ รวดเร็ว
- มีความน่าเชื่อถือ เพราะมีคู่ USD สกุลเงินของประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่
- ความผันผวนที่คาดการณ์ได้ นักลงทุนสามารถวางแผน และ จัดการความเสี่ยงได้
รูปที่ 2: คู่เงินหลัก ได้รับความนิยมทั้ง 7 ชนิด
คู่เงินรอง
- EUR/GBP (ยูโร/ปอนด์อังกฤษ)
- EUR/AUD (ยูโร/ดอลลาร์ออสเตรเลีย)
- EUR/JPY (ยูโร/เยนญี่ปุ่น)
คู่เงินรองมีความสำคัญคือ
- สภาพคล่องไม่สูงมาก
- ผันผวนมากกว่าคู่หลัก
- มีปัจจัยการเมือง เศรษฐกิจ ร่วมวิเคราะห์แนวโน้ม
คู่เงินแปลกใหม่
- USD/TRY (ดอลลาร์สหรัฐ/ลีราตุรกี)
- USD/ZAR (ดอลลาร์สหรัฐ/แรนด์แอฟริกาใต้)
- EUR/TRY (ยูโร/ลีราตุรกี)
คู่เงินแปลกใหม่มีความสำคัญคือ
- มีความผันผวนสูง
- สภาพคล่องต่ำ มีค่าสเปรดกว้าง ค่าใช้จ่ายในการเทรดสูง
- มีการซับซ้อนในการวิเคราะห์
โลหะมีค่า
- XAU/USD: ทองคำ/ดอลลาร์สหรัฐ
- XAG/USD: เงิน/ดอลลาร์สหรัฐ
โลหะมีค่า มีความสำคัญคือ
- ความผันผวนสูง XAU/USD ได้รับความนิยมทั่วโลก
รูปที่ 3: ผลิตภัณฑ์ XAU/USD ได้รับความนิยมในไทยเป็นอย่างมาก
สินค้าโภคภัณฑ์
- WTI/USD: น้ำมันดิบ WTI/ดอลลาร์สหรัฐ
- Brent/USD: น้ำมันดิบ Brent/ดอลลาร์สหรัฐ
อื่น ๆ
- ดัชนี (Indices)
- สัญญาฟิวเจอร์ส
- ออปชั่น (Options)
- Crypto Currencies
- BTC/USD
- ETH/USD
สำหรับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้เฉพาะทาง รวมไปถึงประสบการณ์ของการเรียนรู้แนวโน้มของราคา พร้อมกับตัวของรายละเอียดเชิงลึกด้านอื่น ๆ
คำสั่งการซื้อขาย
คำสั่งการซื้อขาย เป็นเรื่องสำคัญที่นักเทรดจะต้องทราบถึงคำสั่งต่าง ๆ ดังนี้
- คำสั่งตลาด เป็นคำสั่งซื้อ Buy / Sell ตามสกุลเงินราคาปัจจุบันที่ดีที่สุดในตลาด
- คำสั่งหยุด เป็นคำสั่งซื้อขาย เมื่อราคาถึงระดับที่กำหนด
- TP (Take Profit) กำไรที่ต้องการ
- SL (Stop Loss) จุดที่ยอมขาดทุน
- คำสั่งลิมิต ตั้งราคาที่ต้องการ เมื่อราคามาถึงจุดที่ตั้งไว้
- Buy Limit
- Sell Limit
คำศัพท์ต่าง ๆ Forex
- Spread ความแตกต่างระหว่างราคาขายและราคาซื้อ
- ถ้าราคาซื้อ (Bid Price) ของคู่เงิน EUR/USD คือ 1.1050 และราคาขาย (Ask Price) คือ 1.1055
- ดังนั้น Spread จะเท่ากับ 5 Pips
- Pip หน่วยของการวัด การเปลี่ยนแปลงของราคาสำหรับคู่เงิน
- หมายถึงการเปลี่ยนแปลงราคาที่อยู่ในหลักทศนิยมที่ 4
- Leverage เป็นความสามารถในการเปิดตำแหน่งที่ใหญ่กว่าทุนที่มีจริง โดยโบรกเกอร์จะให้ยืมเงิน
- ค่าเลเวอเรจสูง ก็ยิ่งทำให้กำไรเพิ่ม แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงมาก
- Stop Out คือเงื่อนไขที่โบรกเกอร์ตั้งไว้ว่าจะให้หยุดการซื้อขาย (พอร์ตแตก)
- Commission ค่าบริการแต่ละการเปิดออเดอร์ซื้อขาย
- Swap ดอกเบี้ยค้างคืน กรณีเปิดออเดอร์ข้ามวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
เป็นเรื่องสำคัญของเทรดเดอร์ที่เข้าสู่ตลาด Forex แล้วนั้นจะต้องรู้นั่นก็คือ ปัจจัยที่ทำให้กราฟราคาวิ่ง รวมไปถึงแนวโน้มต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อตลาด มีดังต่อไปนี้
- ข่าวเศรษฐกิจ กับ ข่าวการเมือง
- การประกาศอัตราดอกเบี้ย
- การเติบโตของ GDP
- เหตุการณ์สำคัญทางการเมือง
รูปที่ 4: ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด Forex ตรวจได้ใน Forex Factory
ศึกษาข้อดี – ข้อเสียของตลาด Forex
หลังจากที่ได้เรียนรู้ตั้งแต่พื้นฐานของการเทรด Forex มาแล้ว สิ่งที่ทุกคนต้องเรียนรู้ให้เข้าใจคือ ข้อดี และ ข้อเสีย ซึ่งพวกเราได้สรุปมาให้อ่านกันดังต่อไปนี้
ข้อดีของตลาด Forex
- ตลาดมีความผันผวนสูง เทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง จันทร์-ศุกร์
- เสาร์-อาทิตย์ สามารถเทรด Crypto ได้เช่น BTC/USD
- เป็นอาชีพเสริม สร้างกำไรได้ในเวลาอันสั้น
ข้อเสียของตลาด Forex
- โบรกเกอร์ผู้ให้บริการส่วนใหญ่จะเปิดรับแทงเอง ไม่ส่งตลาด
- ความผันผวนของราคา เป็นสิ่งที่นักเทรดต้องทำความเข้าใจ
- ยังไม่ถูกกฎหมายสำหรับประเทศไทย ยังไม่ถูก กลต.รับรอง
ข้อควรระวัง
- การลงทุนมีความเสี่ยง การผันผวนของตลาดอาจจะสร้างกำไร หรือ ขาดทุนได้
- โปรดระมัดระวังโบรกเกอร์ปลอม หรือ ความเสี่ยงอื่น ๆ
รูปที่ 5: ข้อดี – ข้อเสีย ของการเข้าสู่ตลาด Forex (แท้จริง)
เลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสม
โบรกเกอร์ Forex คือ ผู้ที่ให้บริการที่ทำให้เราสามารถลงทุนได้ อำนวยความสะดวกต่าง ๆ รวมทั้งให้ยืมเงินในการลงทุน (Leverage) แน่นอนเลยว่าเราควรเลือกผู้ให้บริการที่เหมาะสม ด้วยหัวข้อหลัก ๆ ที่สำคัญดังต่อไปนี้ครับ
มีความน่าเชื่อถือ
โบรกเกอร์ที่ใช้ควรมีใบอนุญาตระดับ Tier 1 คือ FCA หรือ ASIC
- อายุที่เปิดให้บริการนานกว่า 10 ปีขึ้นไป
- มีการรีวิวจากผู้ใช้งานจริง จากเว็บไซต์รีวิว หรือ ความคิดเห็นจากเทรดเดอร์
ประเภทบัญชีที่เหมาะสม
- ประเภทบัญชีที่มีค่า Spread, Leverage, Swap ตรงตามกลยุทธ์
- ฝากเงินขั้นต่ำตามความเหมาะสม
- แพลตฟอร์มที่รองรับกับบัญชีเทรด
การให้บริการ
- การให้บริการตอบปัญหา แก้ไขบัญหาได้ตามที่ต้องการ
รูปที่ 6:ตัวอย่างองค์กรที่เชื่อถือได้ การได้รับอนุญาต และ เงื่อนไขความน่าเชื่อถือ
ศึกษากลยุทธ์ของการเทรด
สิ่งสำคัญของเทรดเดอร์คือ การศึกษากลยุทธ์ของการเทรด ซึ่งแน่นอนว่ามันคือสไตล์การเทรดของนักเทรดแต่ละคนด้วยดังนี้
เทรดสั้น
Scalping: ใช้ช่วงเวลาเคลื่อนไหวของราคาในช่วงสั้น ๆ สร้างกำไร
- Day Trading: ถือว่าเป็นการเทรดสั้นได้ ตลอดทั้งวันจะไม่เปิดออเดอร์ข้ามวัน
เทรดยาว
- Swing Trading: การถือครองตำแหน่งเป็นระยะเวลาหลายวัน
- Position Trading: การถือครองตำแหน่งระยะยาวหลายเดือนหรือปี
ใช้ Indicator เป็นเครื่องมือวิเคราะห์
หลังจากที่ได้รู้แล้วว่ากลยุทธ์ของตนเองจะเป็นแบบไหน ครั้งนี้ก็ลองใช้เครื่องมือพื้นฐานดังต่อไปนี้
- เครื่องมือพื้นฐานสำหรับมือใหม่
- Moving Averages คาดเดาแนวโน้มราคาของตลาด
- RSI คาดการณ์ทิศทางของตลาด
มีแผนการเทรดของตนเอง สร้างวินัย
- สร้างเป้าหมายของตัวเองว่าต้องการกำไรกี่% ของทุนต่อวัน
- ยึดตามแผน กำหนด TP / SL ยอมชนตามแผน
- มีวินัยที่มั่นคง ไม่ผิดแผน
- หากแผนที่ใช้งานอยู่มีปัญหา วิเคราะห์และแก้ไขปรับปรุง
รูปที่ 7:วางแผนการเทรดของตนเอง ทำตามแผน ไม่นอกแผน บริการกำไร และ ต้นทุน
มีจิตวิทยาการเทรด
เรื่องนี้ค่อนข้างสำคัญ เพราะการเทรดต้องอาศัยการใช้สภาพของอารมณ์ และ จิตใจด้วย ซึ่งอธิบายได้ดังต่อไปนี้
- เมื่อเทรดได้กำไร = อารมณ์ดี ไม่เครียด จิตใจดี
- เมื่อกราฟไปผิดทาง / ถูกลาก ใกล้ชน SL = มีความกังวล กระวนกระวาย
- เมื่อ Sl ทุกออเดอร์ = สภาพจิตใจไม่ดี มีอาการจิตตก กระวนกระวาย ผิดหวัง
โดยสิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับสภาพของจิตใจในขณะเทรด ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องตั้งเป้าหมายให้ดี เดินตามแผน และ เราจะสร้างกำไรได้อย่างยั่งยืน และ รับสภาพกับความผิดหวังได้
รูปที่ 8: จิตวิทยาการเทรด ได้กำไรอารมณ์ดี และ อารมณ์อื่น ๆ
สิ่งที่คุณเองจะต้องรู้ก่อนเทรดนั่นก็คือข้อมูลของตลาด Forex ทุกอย่างที่มีจะเป็นเรื่องที่ให้คำแนะนำ คำเตือน ประสบการณ์โดยตรงจากนักเทรดรายอื่น ๆ ซึ่งมองได้ว่ามีทั้งข้อดี ข้อเสีย แตกต่างกันไป ส่วนใหญ่แล้วสิ่งที่เรียนรู้นอกจากเรื่องพื้นฐาน จะเป็นเรื่องของจิตวิทยาในการเทรด ที่ต้องมีการควบคุมตนเองทั้งด้านของอารมณ์ จิตใจ อีกทั้งกำไรที่ได้จากการเทรด ควรมีการจัดสรรปันส่วนให้ดี พร้อมทั้งนำไปลงทุนในเรื่องอื่น ๆ ต่อไป