รู้หรือไม่ ? กราฟ Forex ทำงานยังไง ราคากราฟพุ่งขึ้นหรือดิ่งลงมีเหตุผลใดบ้างที่เป็นเช่นนั้น อะไรที่เป็นตัวขับเคลื่อนราคา นี่คือเรื่องสำคัญที่คุณควรรู้
ตลาด Forex เรียกได้ว่าเป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสภาพคล่อง รวมไปถึงความผันผวนที่สูงตามช่วงเวลา เป็นตลาดที่ได้รับความนิยมจากเทรดเดอร์ทั่วโลก โดยมีการซื้อขายสกุลเงิน, CFDs, โลหะมีค่า เป็นต้น ด้วยการเคลื่อนไหวของราคาที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอด 24 ชั่วโมง จะแสดงให้เห็นผ่านกราฟ ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักเทรดที่จะต้องทำการวิเคราะห์ข้อมูลจากกราฟแท่งเทียน หรือ รูปแบบของกราฟเส้นอื่น ๆ ที่ถนัด เป็นตัวเลือกสำหรับแนวโน้มการตัดสินใจลงทุนนั่นเองครับ สำหรับบทความนี้พวกเราจะขออธิบายเกี่ยวกับการขับเคลื่อนของตลาด Forex กับ กราฟที่ได้รวบรวมเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงว่าขึ้น-ลง ได้ยังไง ? ทุกคำตอบอยู่ที่นี่แล้วครับ
กราฟขึ้นลงได้ยังไง
กราฟราคาในตลาด Forex มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการเคลื่อนไหวนี้เกิดจาก อุปสงค์ (Demand) และอุปทาน (Supply) ของสกุลเงินต่างๆ หากมีคนต้องการซื้อจำนวนมาก ราคาก็จะสูงขึ้น ในทางกลับกัน หากมีคนต้องการขายเงินบาทจำนวนมาก ราคาก็จะตกลง ทีนี้..อะไรล่ะ ที่ทำให้คนอยากซื้อ อยากขายสกุลเงิน? อะไรที่เป็นตัวกำหนด Demand & Supply ของเงินแต่ละสกุล? มีปัจจัยเยอะแยะมากมาย ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง สังคม หรือแม้แต่ภัยธรรมชาติ ก็มีผลหมดเลยนะ ไปดูกันว่า “อะไรที่เป็นตัวขับเคลื่อนตลาด Forex”
ปัจจัยพื้นฐานที่ทำให้ตลาด Forex เคลื่อนไหว
เรื่องสำคัญที่ต้องเรียนรู้คือ ปัจจัยทางด้านพื้นฐานของตลาดโลก ภาวะเศรษฐกิจ รวมไปถึงเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ของประเทศนั้น ๆ ที่จะส่งผลต่อ Demand & Supply ของเงินแต่ละสกุล ปัจจัยพื้นฐานสำคัญๆ มีดังนี้
- ข้อมูลทางเศรษฐกิจของประเทศ
- การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ GDP
- อัตราการจ้างงาน
- อัตราเงินเฟ้อ
- ปัจจัยดังกล่าวส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และการตัดสินใจซื้อขาย
- นโยบายการเงินของประเทศ
- การตัดสินใจของธนาคารกลางเกี่ยวกับการปรับอัตราดอกเบี้ยสามารถมีผลกระทบอย่างมากต่อค่าเงิน
- หากธนาคารกลางเพิ่มอัตราดอกเบี้ย มักจะส่งผลให้ค่าเงินของประเทศนั้นแข็งค่าขึ้น
- เหตุผลเนื่องจากนักลงทุนจะสนใจเข้าลงทุนในสินทรัพย์ที่มีผลตอบแทนสูง
- เหตุการณ์ทางการเมืองของประเทศ
- การเลือกตั้ง
- การเปลี่ยนแปลงนโยบายรัฐบาล
- สามารถส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ทำให้ราคาสกุลเงินผันผวน
รูปที่ 1: อธิบายถึงตัวขับเคลื่อนของตลาด Forex
ปัจจัยทางเทคนิค
นอกจากปัจจัยพื้นฐานแล้ว “ปัจจัยทางเทคนิค” ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญ ที่ช่วยให้เทรดเดอร์ “อ่านเกม” การเคลื่อนไหวของราคา คาดการณ์แนวโน้ม และหาจังหวะเข้า-ออกออเดอร์
- เทคนิคแนวโน้มของราคา
- แนวโน้มขาขึ้น พร้อมกับขาลง จะช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น พร้อมกับความถูกต้อง
- ตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่น ๆ
- Moving Averages
- RSI (Relative Strength Index)
- MACD (Moving Average Convergence Divergence)
- แนวรับ และ แนวต้าน
- มองหาจุดกลับตัว จุดที่ราคาจะมีการเปลี่ยนแปลง
รูปที่ 2: อธิบายถึงอุปสงค์ และ อุปทานของตลาด
อะไรเป็นตัวขับเคลื่อนตลาด Forex
สิ่งที่ขับเคลื่อนตลาด Forex เกิดจากการตอบสนองของผู้เข้าร่วมตลาด โดยมีรายละเอียดของการขับเคลื่อนตลาดได้ดังต่อไปนี้
- ธนาคารกลาง
- ธนาคารพาณิชย์
- นักลงทุนสถาบัน
- เทรดเดอร์รายย่อย
โดยตัวขับเคลื่อนทั้งหมดที่กล่าวมานั้นจะหมายได้ถึง อุปสงค์ และอุปทานของการขับเคลื่อนในครั้งนี้ โดยมีสิ่งสำคัญดังต่อไปนี้
อุปสงค์และอุปทาน
- เมื่อมีความต้องการซื้อสกุลเงินมากขึ้น ราคาจะเพิ่มขึ้น
- ในทางกลับกัน ถ้ามีสกุลเงินมากขึ้น ราคาจะลดลง
ทางด้านข่าวสาร และข้อมูล
- ข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ พร้อมกับเหตุการณ์สำคัญ
- จะสร้างความผันผวนในตลาด เฉพาะช่วงเวลาที่มีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ
- นักลงทุนจะติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพื่อตัดสินใจในการเทรดแต่ละครั้ง
ตัวอย่างสถานการณ์จริง ที่ส่งผลต่อราคาของกราฟ
ตัวอย่างของเหตุการณ์จริงบนโลกที่เกิดขึ้น แล้วมีผลกระทบต่อตลาด Forex เป็นอย่างมาก ซึ่งจะมีตัวอย่างของสงคราม และ เหตุการณ์สำคัญดังต่อไปนี้
สงครามในยูเครน (2022)
เป็นข่าวที่ติดตามกันมานานสำหรับสงครามในยูเครน กับ รัสเซีย ในปี 2022 ทำให้ค่าเงินของหลายประเทศในยุโรป กับ รัสเซียนั้นผันผวนเป็นอย่างมาก
- ค่าเงินยูโร (EUR)
- เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเศรษฐกิจในยุโรปและผลกระทบจากการคว่ำบาตรรัสเซีย
- ทำให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง
- เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเศรษฐกิจในยุโรปและผลกระทบจากการคว่ำบาตรรัสเซีย
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD)
- เมื่อนักลงทุนมักมองหาความปลอดภัยในสินทรัพย์ที่มั่นคง ได้แก่
- ดอลลาร์สหรัฐ จึงมีผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
- เมื่อนักลงทุนมักมองหาความปลอดภัยในสินทรัพย์ที่มั่นคง ได้แก่
รูปที่ 3: อธิบายถึงสงครามยูเคน ที่มีผลกระทบต่อค่าเงินต่าง ๆ
สงครามอิรัก (2003)
ในปี 2003 นั้น สหรัฐอเมริกาได้บุกอิรัก ส่งผลกระทบต่อสกุลเงินตะวันออกกลาง รวมไปถึงทั่วโลกด้วย
- ค่าเงินอิรัก (IQD)
- สำหรับค่าเงินของอิรักนั้นประสบปัญหาการอ่อนค่าลงอย่างมาก
- เพราะความไม่มั่นคงทางการเมือง และ เศรษฐกิจ
- การคว่ำบาตรจากนานาชาติ ยิ่งซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจของอิรักเข้าไปอีก
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD)
- ในช่วงแรกของสงคราม USD มีแนวโน้มอ่อนค่าลง เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับต้นทุน และระยะเวลาของสงคราม รวมถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
- หลังจากนั้น USD แข็งค่าขึ้น เมื่อสถานการณ์สงครามเริ่มคลี่คลาย และนักลงทุนมองหาสินทรัพย์ปลอดภัย
รูปที่ 4: อธิบายถึงสงครามอิรัก ที่ค่าเงินท้องถิ่นอ่อนลง ค่าเงินดอลลาร์สูงขึ้น
ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี (2017)
อย่างที่ทราบข่าวของเกาหลีเหนือ กับ สหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2017 ส่งผลให้ตลาด Forex มีการผันผวนหนัก
- ค่าเงินเยนญี่ปุ่น (JPY)
- โดยนักลงทุนมักจะซื้อเยนในช่วงที่เกิดความไม่แน่นอน
- เป็นสกุลเงินปลอดภัย (Safe Haven Currency) ในภูมิภาคเอเชีย คล้ายกับ USD ที่เป็นสกุลเงินปลอดภัยในระดับโลก
- ส่งผลให้ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้น
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD)
- จะมีการผันผวนมากขึ้นในค่าเงินดอลลาร์ เพราะว่าความกังวลเกี่ยวกับการตอบโต้จากเกาหลีเหนือ
รูปที่ 5: อธิบายถึงความตึงเครียดของเกาหลีเหนือ กับ สหรัฐอเมริกา ส่งผลต่อค่าเงินเยน และ ดอลลาร์สหรัฐ
ความขัดแย้งในซีเรีย (2011)
ตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา สงครามในซีเรีย มีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินในภูมิภาค
- ค่าเงินลีราตุรกี (TRY)
- เมื่อค่าเงินตุรกีได้รับผลกระทบจากการเป็นที่ตั้งของการแทรกแซงทางทหาร
- ส่งผลให้ลีราอ่อนค่าลง
- เมื่อค่าเงินตุรกีได้รับผลกระทบจากการเป็นที่ตั้งของการแทรกแซงทางทหาร
- ค่าเงินยูโร (EUR)
- นักลงทุน มีความกังวลเกี่ยวกับผู้ลี้ภัยที่เข้ามาในยุโรปทำให้ค่าเงินยูโรมีความผันผวนอย่างหนัก
เหตุการณ์เครื่องบินตกในปี 2020
เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2020 เครื่องบินของสายการบินยูเครน อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์ไลน์ (UIA) ตกในกรุงเตหะราน หลังจากการยิงของระบบป้องกันทางอากาศของอิหร่าน
- ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก พร้อมทั้ง เป็นเหตุการณ์ที่เกิดความตึงเครียดระหว่างอิหร่าน และ ประเทศฝั่งตะวันตก
- ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมองหาสินทรัพย์ปลอดภัย ราคาน้ำมันดิบก็พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันสำคัญของโลก
ประธานาธิบดีอิหร่าน เฮลิคอปเตอร์ตก
เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2567 เอบรอฮีม รออีซี (Ebrahim Raisi) ประธานาธิบดีอิหร่านเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก
- มีการผันผวนของค่าเงิน USD
- เหตุการณ์นี้ทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นมาจนถึง ณ ปัจจุบัน
ยิ่งเหตุการณ์ไหน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกมากเท่าไหร่ กราฟ Forex ก็จะยิ่งผันผวนมากขึ้นเท่านั้น
รูปที่ 6: เอบรอฮีม รออีซี (Ebrahim Raisi) ประธานาธิบดีอิหร่านเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก
Covid-19 กับ Forex
การแพร่ระบาดของ COVID-19 ตั้งแต่ปี 2020 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก และตลาด Forex อย่างรุนแรง สร้างความผันผวน และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักลงทุน ไปอย่างสิ้นเชิง
- ตลาด Forex ผันผวนอย่างหนัก เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของ COVID-19
- เมื่อมีข่าวเกี่ยวกับวัคซีน ทำให้ค่าเงินเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
- ธนาคารกลางทั่วโลก ใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย เช่น ลดอัตราดอกเบี้ย และ QE เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ค่าเงินอ่อนค่าลง
- เมื่อสถานการณ์ COVID-19 เริ่มคลี่คลาย เศรษฐกิจฟื้นตัว ค่าเงินของประเทศต่างๆ ก็เริ่มแข็งค่าขึ้น
- COVID-19 เร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง สู่ “โลกออนไลน์” มากขึ้น รวมถึงการเทรด Forex ออนไลน์
- ทองคำ เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ที่ได้รับความนิยมในช่วงวิกฤต ราคาทองคำจึงพุ่งสูงขึ้น ในช่วง COVID-19
รูปที่ 7: การใช้ชีวิตแบบ New Normal กับวิธีการใช้ชีวิตหลัง Covid-19 หยุดระบาด
สรุป
การเคลื่อนไหวของตลาด Forex นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน ทั้ง เศรษฐกิจ การเมือง และปัจจัยทางเทคนิค การทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้ จะช่วยให้นักเทรดวิเคราะห์แนวโน้มของราคาได้แม่นยำยิ่งขึ้น แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือ การมีแผนกลยุทธ์ การควบคุมความเสี่ยง และการศึกษาหาความรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในตลาด Forex