20 วิธี เทรด Forex ยังไงให้รวยเร็ว

การเทรด Forex ให้รวยเร็วนั้นหลายคนอาจมองว่ามันเป็นเรื่องยาก และมีความเสี่ยงสูง เทรดเดอร์หลายคนหันมาให้ความสนใจในตลาด Forex เป็นอย่างมาก เพราะด้วยมูลค่าตลาดที่สูง ทำให้มีเทรดเดอร์เข้ามาเทรดในตลาดเพิ่มสูงขึ้น การเทรด Forex จึงต้องการความรู้และทักษะในการวิเคราะห์ตลาด การบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถทำกำไรได้ในระยะยาวในตลาด Forex และสิ่งที่เทรดเดอร์จะได้รับรู้ต่อไปนี้คือ 20 วิธี เทรด Forex ยังไงให้รวยเร็ว เป็นวิธีที่อาจจะช่วยให้คุณเตรียมตัวและเทรด Forex ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

วิธีที่1 ทำความเข้าใจเกี่ยวกับตลาด 

• ศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับตลาด Forex ด้วยการเริ่มต้นดูข้อมูลในตลาด ว่าคู่เงินไหน หรือสินทรัพย์ประเภทไหน ที่มีการซื้อขายเกิดขึ้นในระหว่างวัน ที่มีปริมาณการซื้อขายตลอดเวลา หรือเรียกสั้นๆว่า ตลาดที่มีสภาพคล่องสูง 
• ศึกษาข้อมูลของ คู่เงินหลักที่นิยมเทรด คือ คู่เงินหลักที่ได้รับความนิยมในการเทรดมากที่สุด เป็นคู่เงินที่ทั่วโลกนิยมเทรดกันมากกว่าคู่เงินอื่นๆ ได้แก่ ยูโร (EUR), ดอลลาร์สหรัฐ (USD), เงินเยนญี่ปุ่น (JPY), ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD), ดอลลาร์แคนาดา (CAD), ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) และเงินปอนด์อังกฤษ (GBP)  
• หากมีคู่เงินต่างๆเหล่านี้ที่กล่าวมาเช่น EURUSD / USDJPY / GBPUSD / USD/CHF / AUD/USD / USD/CAD / NZD/USD ถือว่าเป็นคู่เงินที่น่าจับตามอง และควรศึกษาเรียนรู้ คู่เงินที่เราต้องการเทรดอย่างละเอียด 
• อีกสินทรัพย์ที่อยากให้ไปศึกษาดูคือ XAUUSD นั่นคือสินทรัพย์ทองนั่นเอง เป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง หากฝึกฝน วางแผนที่ดีสามารถทำกำไรได้อย่างรวดเร็ว

วิธีที่ 2 วางแผนการเทรด

• การวางแผนการเทรดมีความสำคัญในการเทรดฟอเร็กซ์เป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้ดีกว่าเทรดเดอร์ที่ไม่ได้วางแผนการเทรด 
• การวางแผนจะช่วยให้ทิศทางการเทรดของคุณ เป็นไปในทางที่ถูกต้องและควรจะเป็น ตามแผนที่คุณได้วางเอาไว้ 
• การมีแผนการเทรด ควรมีแผนการและขั้นตอนตั้งแต่การวางเป้าหมายที่ชัดเจน การกำหนดกำไรในการเทรดแต่ละรอบ และรวมถึงการวางแผนการจัดการความเสี่ยงในการเทรด 

วิธีที่ 3 รู้จักทุนของตัวเอง 

• การเทรดฟอเร็กซ์แน่นอนว่าต้องมีการใช้ทุนในการเทรด เพื่อเริ่มต้นในการทำกำไร 
• ทุนในที่นี้หมายถึง เงินที่จะสามารถนำมาลงทุน และไม่กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันของเทรดเดอร์ หรือเรียกอีกอย่างว่าเงินเย็น
• หากมีเงินเย็นที่เพียงพอก็สามารถนำมาลงทุนในการเทรดฟอเร็กซ์ได้ 
• หากคุณมีเงินเย็นอยู่ จำนวน 500usd คุณสามารถแบ่งเงินจำนวนนั้น เป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นเงินสำหรับการสำรองเพื่อการดำรงชีวิต หรือใช้ในยามฉุกเฉิน  ส่วนที่สองเป็นเงินสำหรับการลงทุนสามารถนำเงินอีก 250usd มาลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์ได้

วิธีที่ 4 ศึกษาข้อมูลด้านเทคนิค 

• ศึกษาและทดลองใช้เทคนิคการวิเคราะห์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการเทรดฟอเร็กซ์ เช่นการวิเคราะห์ทางด้านเทคนิค Technical Analysis 
• การวิเคราะห์ทางด้านเทคนิค Technical Analysis  หรือเรียกอีกอย่างว่า การวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค สามารถวิเคราะห์ได้จาก รูปแบบของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Pattern) , รูปแบบกราฟราคา (Chart Pattern) เป็นต้น
• รูปแบบของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Pattern) ส่วนใหญ่เทรดเดอร์มักจะใช้กราฟแท่งเทียน โดยวิเคราะห์ แนวรับ-แนวต้าน ของผลิตภัณฑ์นั้นๆ  ซึ่งเทคนิคการวิเคราะห์นี้ได้รับความนิยมสูงในวงการเทรด เพราะด้วยการดูแนวรับแนวต้านเป็นเรื่องพื้นฐานที่เทรดเดอร์มือใหม่ควรจะศึกษา เพื่อที่จะได้ทราบถึงทิศทางของราคา 
• รูปแบบของกราฟราคา (Chart Pattern) เป็นรูปแบบที่เทรดเดอร์มักนิยมใช้ ซึ่งเทรดเดอร์จะดูจากพฤติกรรมแท่งเทียนที่มีการเคลื่อนที่สะสม ของชุดของแท่งเทียนในทามเฟรมต่างๆ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ออกมาเป็นรูปแบบการเคลื่อนที่ โดยแต่ละรูปแบบนั้นจะบอกถึงทิศทางความเป็นไปได้ของการเคลื่อนที่ของราคา 

วิธีที่ 5 ศึกษาการใช้งาน อินดิเคเตอร์ (Indicator)

• การศึกษาอินดิเคเตอร์ (Indicator) จะเป็นเครื่องมือหรือตัวชี้วัด จะใช้ราคาของผลิตภัณฑ์นั้นๆ เรียกว่า “ค่าเฉลี่ยของราคา” ที่เทรดเดอร์มืออาชีพนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เพราะด้วยตัวชี้วัดอินดิเคเตอร์ สามารถช่วยในการดูแนวโน้มของกราฟราคา และวิเคราะห์กราฟทางเทคนิคได้ เพื่อคาดการณ์ทิศทางราคาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 
• การใช้งานอินดิเคเตอร์แต่ละตัวจะมีการคำนวณ, วิธีใช้งานเครื่องมือที่แตกต่างกัน และการให้สัญญาณที่แตกต่างกัน 
• เทรดเดอร์สามารถเลือกใช้เครื่องมืออินดิเคเตอร์ได้ตามกลยุทธ์ตามความถนัดของตนเองได้
• การใช้อินดิเคเตอร์ ที่นิยมใช้งาน ตัวอย่างเช่น เครื่องมือ RSI และ Stochastic 

วิธีที่ 6 การเลือกใช้งานเลเวอเรจ (Leverage) 

• Leverage เป็นสิ่งที่จะช่วยให้การเทรดของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้นหลายเท่าตัว
• ความสามารถของ เลเวอเรจ คือ การยืมเงินจากโบรกเกอร์มาเพื่อเทรด ซึ่งแต่ละโบรกเกอร์ก็จะกำหนด เลเวอเรจมาให้ เพื่อที่จะสามารถซื้อสินทรัพย์หนึ่งๆ ที่มีมูลค่ามากกว่าเงินที่เรามีอยู่จริงๆ ได้
• ตัวอย่างหากคุณใช้เลเวอเรจอยู่ที่ 1 : 500 คุณสามารถวางเงินหลักประกันเพียง 1 USD ก็สามารถถือครองสถานะขนาด 500 USD ได้
• ข้อควรระวังเรื่องการใช้เลเวอเรจ คือ มีความเสี่ยงสูง มีโอกาสทำให้ขาดทุนมากกว่าเงินทุนที่มี

วิธีที่ 7  เรียนรู้จากความผิดพลาด

• เทรดเดอร์สามารถเรียนรู้จากความผิดพลาดในการเทรดครั้งก่อนได้ เพื่อนำมาปรับใช้ในครั้งต่อไปและวางแผนการเทรด 
• หากมีการเทรดผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำอีก ควรเรียนรู้ว่าครั้งก่อนหน้านี้การเทรดของเราเป็นอย่างไร และอะไรที่ทำให้เราเกิดความผิดพลาด 
• หากได้ทราบสาเหตุของความผิดพลาดในการเทรดครั้งนี้แล้ว ควรนำไปปรับแก้ไข เพื่อครั้งต่อไปจะได้มีไม่มีการเทรดผิดพลาดอีกครั้ง 

วิธีที่ 8 เลือกโบรกเกอร์ที่ดี 

• หากคิดอะไรไม่ออก หรือเราไม่มั่นใจในการเทรดของเรา ขอแนะนำให้เลือกโบรกเกอร์ที่ดีไว้ก่อน
• เพราะโบรกเกอร์ที่ดีจะช่วยเหลือคุณอย่างเต็มที่ 
• โบรกที่ดีดูจาก มีใบอนุญาตอย่างถูกต้องและถูกกฎหมาย มีสภาพคล่องที่ดี มีการบริหารจัดการที่ดี มีเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการที่ดี

วิธีที่ 9 รู้จักใช้คำสั่ง Stop Loss 

• สิ่งที่ควรสร้างทักษะในการเทรดที่ดี อย่างแรกที่มีความสำคัญและมีส่วนช่วยให้เราไม่เทรดติดลบจนล้างพอร์ต นั่นก็คือการ ใช้คำสั่ง  Stop Loss ให้เป็น
• เพราะการใช้คำสั่ง Stop Loss จะช่วยป้องกันความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในระหว่างการเทรดของเรา
• การตั้งคำสั่ง % ของ Stop loss นั้น ไม่ตายตัว ขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงที่เทรดเดอร์สามารถยอมรับได้
• เช่นหากมีทุนอยู่ 100usd เราอาจจะตั้ง Stop loss ไว้ที่ 10% ของทุน หากราคาปรับตัวลงไปเกินกว่า 10% ออเดอร์ที่เราออกไป จะทำการปิดออเดอร์ทันที เท่ากับว่าเราจะยอมรับการขาดทุนอยู่ที่ 10usd ทั้งนี้การตั้ง % ของ Stop loss ขึ้นอยู่กับความถนัดและการยอมรับความเสี่ยงของแต่ละบุคคล

วิธีที่ 10 รู้จักใช้คำสั่ง Take Profit 

• สิ่งที่ควรสร้างทักษะในการเทรดที่ดี อย่างแรกที่มีความสำคัญและมีส่วนช่วยให้เรา ได้กำไรจาก การเทรดนั้น สิ่งที่เราต้องรู้เลยคือการใช้คำสั่ง Take Profit ให้เป็น
• เพราะการใช้คำสั่ง Take Profit จะช่วยให้เราเก็บกำไรตามเป้าหมายที่เราคาดหวังเอาไว้ ในการเทรดที่เกิดขึ้น
• การตั้งคำสั่ง Take Profit นั้นไม่ตายตัว ขึ้นอยู่กับความพึ่งพอใจ หรือ ทิศทางของราคาที่เราได้วางแผนเอาไว้ 
• เช่น คุณเปิดออเดอร์ Long หรือสถานะซื้อ ราคาทองคำที่บริเวณ 2,150usd และคาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นอีกประมาณ 50usd จากนั้นก็ตั้งจุด Take profit ที่ระดับ 2,200usd เมื่อราคาขึ้นถึงระดับดังกล่าว ออเดอร์ก็จะถูกปิด และเก็บกำไรออกมานั่นเอง

วิธีที่ 11 เช็คข่าวอยู่เสมอ

• การเทรด forex ที่ดีและทำให้เรารวยเร็วขึ้น หรือช้าลงนั้น ข่าวก็เป็นสิ่งที่สำคัญในการเทรด
• เพราะบางสินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้น ข่าวมีส่วนสำคัญอย่างมาก ที่สามารถเปลี่ยนแปลงทิศทางของราคาของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้นๆ 
• หากเราศึกษาและดูข่าวให้เป็น ข่าวนั้นจะช่วยให้คุณได้กำไรได้อย่างรวดเร็ว 
• การเช็คข่าวที่ดีควรเช็คจากแหล่งข่าวที่มีความน่าเชื่อถือ 

วิธีที่ 12  เข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยง

• ความเสี่ยงในการเทรดนั้นอาจเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น การออกออเดอร์สวนทางกับทิศทางของราคา การลืมตั้ง stop loss หรือการใช้เลเวอเรจที่มากเกินไป ทุกอย่างล้วนทำให้มีความเสี่ยง
• การใช้ปริมาณ lot มากเกินไปในการเทรด หรือเรียกว่า การโอเวอร์เทรด ล้วนแล้วแต่จะทำให้พอร์ตเทรดของคุณเกิดความเสียหายและทำให้ล้างพอร์ตในที่สุด 

วิธีที่ 13  ใช้เวลาให้คุ้มค่า

• สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การเทรดของคุณมีประสิทธิภาพและทำให้คุณทำกำไรได้อย่างรวดเร็ว
• คือการฝึกฝนและใช้เวลาเรียนรู้ ฝึกทักษะการเทรด ฝึกทักษะในสิ่งที่ขาดไป โดยใช้เวลาในแต่ละวันให้คุ้มค่าที่สุด
• ยกตัวอย่างใน 1 วัน หากคุณยังมีงานประจำทำอยู่ ควรแบ่งเวลามาเพื่อศึกษาความรู้เรื่องการเทรดสัก 1-2 ชม 

วิธีที่ 14 เลือกเทรดในระยะเวลาที่เหมาะสม

• การเทรด forex มีกรอบระยะเวลาเทรดหลักๆ อ้างอิงจาก 5 โซนประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น, อังกฤษ, สหรัฐอเมริกา,  และโซนยุโรป 
• ซิดนีย์/ออสเตรเลีย (AUD) ตลาดซื้อขายเปิดทำการตั้งแต่เวลา 05.00 น.-13.00 น.
• โตเกียว/ญี่ปุ่น (JPY) ตลาดซื้อขายเปิดทำการตั้งแต่เวลา 06.00 – 14.00 น.
• ลอนดอน/อังกฤษ (GBP) ตลาดซื้อขายเปิดทำการตั้งแต่เวลา 15.00 – 23.00 น.
• นิวยอร์ก/สหรัฐอเมริกา (USD) ตลาดซื้อขายเปิดทำการตั้งแต่เวลา 19.00 – 03.00 น.
• ยุโรป (EUR) ตลาดซื้อขายเปิดทำการตั้งแต่เวลา 14.00 – 23.00 น.
• ในแต่ละสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ มีช่วงเวลาในการเทรดที่แตกต่างกัน บางสินค้ามีช่วงเวลาในการเทรดที่มีความถี่สูง ในช่วงรอบเช้า บางสินค้ามีช่วงเวลาในการเทรดที่มีความถี่สูง ในช่วงรอบค่ำ

วิธีที่ 15 แยกพอร์ตการเทรด

• วิธีที่จะทำให้การเทรดของคุณโดดเด่นยิ่งขึ้น คือการแยกพอร์ตการเทรดของคุณออกมา
• พอร์ตที่ 1 คือพอร์ตไว้สำหรับการลงทุนโดยใช้ความเสี่ยงต่ำ เลือกสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่มีความผันผวนต่ำ เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว 
• พอร์ตที่ 2 คือพอร์ตที่ไว้สำหรับการเทรดที่ใช้ความเสี่ยงสูง อาจจะเลือกใช้ค่าเลเวอเรจที่มีจำนวนมาก อย่างเช่น 1:500 หรือ 1:1000 ขึ้นไป วิธีนี้จะช่วยให้คุณได้กำไรอย่างรวดเร็ว อย่าลืมว่าแลกมาด้วยความเสี่ยงที่สูงมากเช่นเดียวกัน 
• คุณสามารถแยกพอร์ตออกมาได้กี่พอร์ตก็ได้ ตามความสามารถในการลงทุนและจำนวนเงินทุนของคุณ 

วิธีที่ 16 copy trade ไม่ได้แย่

• วิธีที่จะทำให้คุณได้กำไรอย่างรวดเร็ว โดยที่อาจจะไม่ต้องเทรดด้วยตัวเอง มีอีกหนึ่งวิธีที่จะแนะนำก็คือวิธีการ copy trade นั่นเอง 
• การ copy trade สิ่งสำคัญที่ต้องดูในเรื่องนี้ก็คือมาสเตอร์ที่เป็นผู้นำเทรดหรือผู้ที่เราจะไปติดตาม copy trade ของเขา ให้ดูว่าในหนึ่งเดือนเขาสามารถทำกำไรได้เป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของพอร์ตการลงทุน 
• อย่างที่สองให้ดูว่าค่า Drawdown(DD.) ของเขาอยู่ที่กี่เปอร์เซ็นต์ในการเทรด 
• ค่า Drawdown(DD.) หมายถึง % ของจำนวนเงินขาดทุนสะสมของ balance
• เลือกมาสเตอร์ที่เหมาะกับพอร์ตการลงทุนของตัวเอง คำแนะนำคือ ไม่ควรก็อปปี้เทรดจากมาสเตอร์ที่มีพอร์ตการลงทุนมากกว่าคุณ 

วิธีที่ 17 ฝึกซ้อมและลงแข่งขันเทรด

• การฝึกซ้อมผ่านบัญชี demo ในการลงแข่งขันเทรดเพื่อชิงเงินรางวัลจริง พบได้มากขึ้นในประเทศไทย
• ข้อดีข้อที่1 คือ เทรดเดอร์ที่ยังไม่มีเงินลงทุนที่สามารถนำไปเติมใส่พอร์ตเทรดของตัวเองได้ สามารถนำความวิชาความรู้และทักษะการเทรด เข้าไปลงแข่งขัน เพื่อชิงเงินรางวัลจริง 
• ข้อดีข้อที่2 คือ สามารถเป็นสนามแห่งการฝึกฝนของเราในการเทรดได้ดีมาก 
• ข้อดีข้อที่3 คือ ช่วยให้เราได้รับประสบการณ์ในการเทรด และการปรับปรุงวิธีการเทรดของเราให้ดียิ่งขึ้นไป 

วิธีที่ 18 ฝึกฝนทักษะทางด้านจิตใจ

• หรือที่เรียกอีกอย่างว่าการฝึกฝนจิตวิทยาในการเทรด เพราะด้วยการเทรดนั้น มีหลายสภาวะที่เข้ามาในการเทรดหนึ่งครั้ง สภาวะเหล่านี้จะทำให้เรามีความวิตกกังวล มีความเครียด และมีความกลัว ที่จะสูญเสียเงินลงทุนของเรา
• การฝึกฝนทักษะทางด้านจิตใจ จะทำให้เรามีความคิด มีมุมมองในแง่บวก รักษาสมดุลทางจิตใจ ช่วยลดความเครียด และทำให้เรามีประสิทธิภาพในการเทรด
• การฝึกฝนนี้สามารถฝึกฝนผ่านทาง การนั่งสมาธิ เพราะสมาธิจะทำให้เรามีความนิ่งมากยิ่งขึ้นและรู้ทันอารมณ์ของตนเอง

วิธีที่ 19 หลีกเลี่ยงช่วงข่าวที่สำคัญ 

• ในช่วงข่าวที่สำคัญหรือเหตุการณ์ที่สำคัญ จะทำให้เรามีความเสี่ยงอยู่ที่ 50% นั่นหมายถึงสามารถทำให้เรารวยในช่วงข้ามคืน หรือจนลงในช่วงข้ามคืน ล้วนมีความเป็นไปได้ทั้งหมด
• สิ่งที่เราต้องเข้าใจก็คือช่วงข่าวที่สำคัญนั้น จะทำให้การผันผวนของสินค้าและผลิตภัณฑ์ การเทรด forex มีความผันผวนที่สูงเอามากๆ บางสินค้า สามารถวิ่งได้ไกลถึง 1,000+ จุดขึ้นไป จากปกติวิ่งอยู่ที่ราวๆ 300-400 จุดเท่านั้น
• หากต้องการที่จะเทรดในช่วงข่าวที่สำคัญ ควรดูปัจจัยต่างๆที่มีความเกี่ยวข้องที่จะทำให้ทิศทางของราคาเคลื่อนที่ และเราต้องมีการวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนในการออกออเดอร์เพื่อให้ถูกทาง 
• หากการคาดการณ์ของเราผิดพลาดและสวนทางกับทิศทางของราคา เราก็จะสูญเสียเงินลงทุนในจำนวนหนึ่งที่ออกออร์เดอร์ในตอนนั้น 

วิธีที่ 20 ควบคุมความโลภให้ดี

• ความโลภเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้พอร์ตของคุณเกิดความเสียหาย หากคุณไม่ได้ทำตามกฎและแผนการที่คุณวางเอาไว้
• มีหลายคนที่สูญเสียเงินลงทุนเป็นจำนวนมาก เพราะเพียงแค่ว่าต้องการได้กำไรในช่วงที่ตลาดผันผวนสูง และมีการโอเวอร์เทรดเกิดขึ้น 
• การโอเวอร์เทรดในช่วงเวลาที่เราไม่ได้วางแผน หรือเกิดความโลภครอบงำ จะทำให้พอร์ตการลงทุนของคุณ มีความเสี่ยงที่สูง และหากว่าทิศทางของราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้าม จะส่งผลให้ พอร์ตแตกหรือขาดทุนในที่สุด
• คำแนะนำคือควรเทรดตามแผนการที่เราได้วางเอาไว้และเป้าหมายที่เรากำหนดไว้ อย่าใช้ความโลภเป็นตัวกำหนดชีวิตของคุณ 

การเทรด Forex ไม่ได้มีเพียงแค่ครั้งเดียวแล้วจบไป ระวังความคาดหวังว่าคุณจะรวยได้ทันที การเทรด Forex ต้องใช้เวลาและความพยายามในการเรียนรู้และปรับปรุง ตลาดฟอเร็กซ์เป็นตลาดที่มีการเดินทางโดยการสั่งสมประสบการณ์และระยะเวลาในการเรียนรู้ที่ยาวนาน ซึ่งความสำเร็จอย่างยั่งยืนต้องการความสม่ำเสมอและการฝึกฝนการเรียนรู้  เทรดเดอร์ควรใช้เวลาในการศึกษาข้อมูลและการเรียนรู้ ท้ายที่สุดแล้วควรนำมาฝึกฝน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดของเทรดเดอร์เอง วิธีต่างๆดังกล่าวที่ได้พูดออกมา จะไม่ได้ผลเลยหากคุณไม่ลงมือปฏิบัติจริง การลงมือทำเท่านั้นที่จะช่วยให้คนได้กำไรและทำให้คุณรวยได้ รวยเร็ว